[MINI-HD 1080P] THE TAKING OF TIGER MOUNTAIN (2015) ยุทธการยึดผาพยัคฆ์
“โมโนฟิล์ม” คว้าภาพยนตร์จีนผลงานกำกับของปรมาจารย์ “ฉีเคอะ” เจ้าของผลงานระดับตำนานอย่าง โหด เลว ดี, โปเยโปโลเย, หวงเฟยหง และ ตี๋เหรินเจี๋ย (Detective Dee) มาให้คอหนังได้ร่วมบู๊ลุ้นไปกับฉากแอ็คชั่น ชิงไหวชิงพริบสุดมันใน The Taking of Tiger Mountain ยุทธการยึดผาพยัคฆ์ นำแสดงโดย หลิน เกิงซิน, โทนี่ เหลียง กา ไฟ และ จาง ฮั่นหยู
“The Taking of Tiger Mountain ยุทธการยึดผาพยัคฆ์” ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมชื่อดัง “Track in the Snowy Forest” ของ “ฉู โบ” เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามกลางเมืองในปี ค.ศ.1946 เมื่อกลุ่มโจรทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน โดยการนำของ “ประมุขเหยี่ยว” (โทนี่ เหลียง กา ไฟ) ได้ทำการคุกคามชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน พร้อมกับยึดป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดบนภูผาพยัคฆ์เป็นฐานตั้งมั่น ทำให้ “ผู้กอง 203” (หลิน เกินซิน) จากหน่วยรบ 203 แห่งกองกำลังปลอดปล่อยประชาชน เดินทางมาเพื่อปราบกบฏและวางแผนยึดป้อมพยัคฆ์กลับคืน ขณะเดียวกันทางการจีนก็ได้ส่งสายลับมือดีอย่าง “หยาง” (จาง ฮั่นหยู) เข้าแฝงตัวแทรกซึมในหมู่โจร สงครามระห่ำแห่งการชิงไหวชิงพริบจึงเริ่มต้น
“The Taking of Tiger Mountain ยุทธการยึดผาพยัคฆ์” ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมชื่อดัง “Track in the Snowy Forest” ของ “ฉู โบ” เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามกลางเมืองในปี ค.ศ.1946 เมื่อกลุ่มโจรทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน โดยการนำของ “ประมุขเหยี่ยว” (โทนี่ เหลียง กา ไฟ) ได้ทำการคุกคามชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน พร้อมกับยึดป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดบนภูผาพยัคฆ์เป็นฐานตั้งมั่น ทำให้ “ผู้กอง 203” (หลิน เกินซิน) จากหน่วยรบ 203 แห่งกองกำลังปลอดปล่อยประชาชน เดินทางมาเพื่อปราบกบฏและวางแผนยึดป้อมพยัคฆ์กลับคืน ขณะเดียวกันทางการจีนก็ได้ส่งสายลับมือดีอย่าง “หยาง” (จาง ฮั่นหยู) เข้าแฝงตัวแทรกซึมในหมู่โจร สงครามระห่ำแห่งการชิงไหวชิงพริบจึงเริ่มต้น
โดยผู้กำกับ ฉีเคอะ เผยว่า “ครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับเรื่องราววรรณกรรมของ Track in the Snowy Forest คือเมื่อครั้งที่ผมไปดูละครโอเปร่า ซึ่งเป็นเรื่องราวการชิงไหวชิงพริบระหว่างทหารกับกลุ่มโจร ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ มีเหล่าฮีโร่จริงๆ ที่บางทีเราก็หลงลืมกันไป ทำให้ผมคิดว่าถ้าเราสร้างเรื่องราวเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักพวกเขาอีกครั้งน่าจะดี จึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจทำหนังเรื่องนี้ ออกมาในแนวร่วมสมัยเพื่อให้คนดูทุกรุ่น ได้เข้ามาสัมผัสกับเรื่องราวและการถ่ายทอดออารมณ์ที่เสมือนเกิดขึ้นจริงๆ ในโลกปัจจุบัน”